วันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม วันแรกของการบรรยายในหัวข้อ “การแสวงหาแนวทางใหม่” ของการประชุมสหพันธ์สภาบิชอปแห่งเอเชีย เริ่มต้นด้วยพิธีบูชาขอบพระคุณ โดย บิชอปโด๋ มานห์ ฮุง แห่งฟานเถียต ประเทศเวียดนาม ประธานการประชุมในวันนี้คือ พระคาร์ดินัลชาลส์ โบ เป็นผู้นำผู้เข้าร่วมประชุมทุกท่านสวดภาวนาเช้า โดยมีคุณพ่อโดมินิก คุณพ่อเฮอร์เบิร์ด คุณพ่อพอลลินุส และซิสเตอร์แคเทอรีน จากประเทศเมียนมาร์ เป็นผู้รับผิดชอบจัดเตรียมการภาวนาผ่านทางวีดีทัศน์
การประชุมเริ่มต้นด้วยวีดีโอสรุปเนื้อหาของการประชุมในส่วนที่ผ่านมาในหัวข้อ “อุบัติการณ์แห่งความเป็นจริง”
อาร์ชบิชอป แฮคเตอร์ มิเกล แคบรีโจส ไวเดรท ประธานการประชุมสภาบิชอปแห่งลาตินอเมริกา (CELAM) ได้แบ่งปันมุมมองเชิงลึกเกี่ยวกับประสบการณ์และประวัติของสภาบิชอปแห่งลาตินอเมริกา ผลจากการสังคยานาวาติกัน ครั้งที่ 2 และการประชุมสภาบิชอปที่ผ่านมา และได้ให้บริบทของการพัฒนาพระศาสนาจักรในแถบลาตินอเมริกา รวมไปถึงเครือข่ายของพระศาสนจักรอื่น ๆ อีกด้วย
พระคาร์ดินัลออสวอล์ด กราเซียส ได้ให้ภาพรวมเกี่ยวกับการประชุมตลอดสัปดาห์ที่จะถึงและอธิบายว่าการประชุมในแต่ละช่วงจะดำเนินต่อไปอย่างไร ทั้งได้แนะนำวิทยากร คือ คุณ เลสลี่ ดิโสยูซาร์ ซึ่งเป็นผู้นำการประชุมฯ ในหลาย ๆ ช่วง เพื่อสร้างความพร้อมให้แก่ผู้เข้าร่วมประชุมทุกท่าน ได้มีโอกาสประเมินตนเองและใช้ภาวะผู้นำในการประชุมที่กำลังจะเกิดขึ้นในสองสามวันข้างหน้า
การประชุมในช่วงแรก คุณดิโสยูซาร์ ได้นำทุกท่านร่วมไตร่ตรองหัวข้อหลักของการประชุม นั่นคือ “ในที่สุดพวกเขาได้กลับไปในหนทางที่ต่างไปจากเดิม” และได้เรียกร้องให้ผู้เข้าร่วมประชุมทุกท่าน มีบทบาทในการเป็น “คนรุ่นใหม่” กลุ่มคนที่จะแสวงหาเส้นทางใหม่ ๆ เพื่อมุ่งไปข้างหน้าด้วยกัน ทั้งได้อธิบายหลักการของ “ทฤษฎีตัวอักษรยู” ซึ่งหมายรวมถึง “การเปลี่ยนสถานที่จากที่เคยอยู่เป็นสถานที่ที่สามารถอยู่ได้” ต่อมา คุณดิโสยูซาร์ ได้นำการประชุมในหัวข้อ “การแสดงตน” ที่ต้องการการมองด้วยความเข้าใจ การเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน การแสดงความรู้สึก การรับรู้ด้วยประสาทสัมผัส และกิจกรรมระดมความคิดเห็น
ในช่วงต่อมา การบรรยายถูกแบ่งออกเป็นสามหัวเรื่องใหญ่ ๆ คือ การจำแนกระบบนิเวศวิทยา สังคมศาสตร์ และจิตวิญญาณ ของ “ตนเอง” กับ “ผู้อื่น” โดยให้แนวทางการเชื่อมโยงทุกศาสตร์เข้าหากัน รวมทั้งบรรยายในหัวข้อระดับและความสำคัญของการฟัง วิทยากรได้เน้นถึงความหมายที่แท้จริงของการเป็นผู้นำ กล่าวถึงความจำเป็นในการพัฒนาด้านจิตใจ ความรู้สึกนึกคิด และเจตจำนง หลังจากนั้นได้ทำกิจกรรมเพื่อสำรวจทักษะการฟังของผู้เข้าร่วมการประชุม
ช่วงบ่ายเริ่มต้นด้วยการจดบันทึก โดยมีตัวแทนผู้เข้าร่วมประชุมตอบคำถามของตนเอง รวมถึงลักษณะนิสัย และระบบการทำงาน หลังจากนั้นมีการพิจารณาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดกันระหว่างกลุ่ม โดยผู้เข้าร่วมประชุมทุกท่านต้องจับคู่กันและรับฟังซึ่งกันและกัน โดยปราศจากอคติ และการตัดสิน หลังจากนั้น มีกิจกรรมจากกรณีศึกษา ซึ่งกลุ่มต่าง ๆ ได้รับกรณีศึกษาเกี่ยวกับความเป็นผู้นำและระดับการฟัง เพื่อให้สมาชิกในแต่ละกลุ่มได้ร่วมกันอภิปราย ไตร่ตรอง และจดบันทึกข้อคิดต่าง ๆ ที่ได้รับ พร้อมนำมาแบ่งปันกับผู้เข้าร่วมประชุมฯ ทุกท่าน ในช่วงเย็น การประชุมฯ ปิดฉากลงด้วยการสวดภาวนา นำโดย พระคาร์ดินัล ชาลส์ โบ
